วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

สถาบันอาหาร แนะผู้ประกอบการอาหารขยายสินค้าอาหารไปยัง "รัสเซีย"

สถาบันอาหาร แนะผู้ประกอบการอาหารขยายสินค้าอาหารไปยัง "รัสเซีย" ที่มีนำเข้าสินค้าอาหาร เช่น ข้าว ผักผลไม้สด อาหารทะเลสด และอาหารแปรรูปถึง 50%นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้มุ่งเน้นการขยายตลาดการส่งออกสินค้าไปยังตลาดใหม่ๆ เพื่อเป็นการลดการพึ่งพิงตลาดหลักเดิมที่เริ่มมีแนวโน้มความต้องการที่อิ่มตัว โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจใหม่ ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจค่อนข้างสูง เช่น จีน อินเดีย และรัสเซียโดยเฉพาะตลาดรัสเซีย ถือได้ว่าเป็นตลาดใหม่ที่ประเทศไทยให้ความสนใจอย่างสูง เนื่องจากเป็นประเทศที่ต้องนำเข้าสินค้าอาหารถึงกว่าร้อยละ 50 เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในประเทศ รวมถึงในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจของประเทศรัสเซียเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยประมาณร้อยละ 7 ต่อปี ซึ่งแสดงถึงศักยภาพของผู้บริโภคในประเทศรัสเซียเพิ่มสูงขึ้นตามมา กลุ่มสินค้าอาหารนำเข้าที่สำคัญของรัสเซีย ได้แก่ ข้าว ผักผลไม้สด อาหารทะเลสด และอาหารแปรรูป ปัจจุบันมีผู้ประกอบการไทยบางรายสามารถนำสินค้าเข้าไปตีตลาดได้แล้ว โดยเฉพาะมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองที่มีวางจำหน่ายอยู่ที่ตลาดสดและซุปเปอร์มาเกตระดับบน ราคาอยู่ที่ประมาณ 300 บาทต่อลูก และผลไม้อื่นๆ ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน อาทิ สับปะรด กล้วย มะม่วง และทับทิม เป็นต้น และในส่วนของผักที่นิยมบริโภค ได้แก่ มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ ผักกาด แตงกวา และมันฝรั่ง ทั้งนี้สินค้าอีกประเภทที่ประเทศไทยมีโอกาสในตลาดรัสเซีย คือ ข้าว เนื่องจากปัจจุบันปริมาณการบริโภคข้าวของชาวรัสเซียมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นอกจากนั้น ประเทศรัสเซียยังถือได้ว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพอันดับต้นๆ เนื่องจากเศรษฐกิจที่เติบโตด้วยการส่งออกน้ำมัน สินค้าพลังงาน แร่ธาตุ รวมถึงสินค้าอาวุธยุทธปัจจัย ซึ่งทำให้ยังคงมีกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงอยู่จำนวนหนึ่ง โดยตลาดกลุ่มนี้จะมุ่งเน้นบริโภคสินค้าที่มีคุณภาพสูง และปัจจัยด้านราคาไม่มีผลกระทบต่อพฤติกรรมการบริโภคนัก ซึ่งผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าอาหารของไทยน่าจะสามารถเจาะตลาดเข้าไป

แหล่งข่าว : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น